เอกลักษณ์ของโรงเรียน

          โรงเรียนดาวรุ่งวิทยา เป็นโรงเรียนคาทอลิก มีพระเยซูเจ้าเป็นจุดศูนย์รวมแห่งจิตใจ และเคารพต่อพระนางมารีย์ (มารดาองค์พระเยซู) และเป็นหนึ่งเดียวในพระศาสนจักรคาทอลิก มีสมเด็จพระสันตะปาปาเป็นประมุข คณะรอยแผลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเยซูคริสตเจ้า (Stigmatine) ได้รับมอบอำนาจจากพระสังฆราชให้ดูแลโรงเรียน โดยจัดการเรียนการสอนตามหลักศาสนาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนรู้ถึงคุณค่าพระวรสาร อาศัยรูปแบบชีวิตของนักบุญกัสปาร์ แบร์โทนี่ ผู้ก่อตั้งคณะรอยแผลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเยซูคริสตเจ้า ที่มุ่งมั่นในการปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้า และช่วยเหลือผู้คนในด้านชีวิตฝ่ายกายและฝ่ายจิต

          นักบุญกัสปาร์ แบร์โทนี่ ดำเนินชีวิตในการที่จะสั่งสอน แนะนำ และให้ทุกคนรู้ว่าจุดหมายที่แท้จริงของชีวิต คือ การเป็นผู้รับใช้พระผู้เป็นเจ้า มีความเชื่อศรัทธา ด้วยความรักและเมตตา อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่โอบอ้อมอารี เป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ เปี่ยมด้วยความรัก เมตตา และอ่อนโยนดุจดังบิดาที่มีต่อบุตร ไม่แบ่งแยกชนชั้น เชื้อชาติ ศาสนา และเพศ เปิดโอกาสทางการศึกษาอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่บุคคลทั่วไป จนถึง ผู้ที่ยากไร้ ให้มีโอกาสได้รับการอบรมทางการศึกษา จนสามารถนำความรู้ที่ได้รับมาใช้เลี้ยงชีพ และช่วยเหลือสังคม

          เพื่อให้ปณิธานที่แน่วแน่ของท่านนักบุญกัสปาร์ แบร์โทนี่ ได้กระจายออกสู่สังคมในวงกว้าง ทางคณะรอยแผลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเยซูคริสตเจ้า จึงได้มีการก่อตั้งโรงเรียนขึ้นหลายแห่ง เพื่อถ่ายทอดปณิธานที่แน่วแน่นี้ ได้หลอมทุกอุดมการณ์ ทุกความมุ่งมั่น อยู่ในรูปแบบการศึกษาที่ปลูกฝังให้นักเรียนมี จิตตารมณ์ตามแบบนักบุญกัสปาร์ แบร์โทนี่ และคุณค่าแห่งพระวรสาร เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม โดยทางคณะบาทหลวงนิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมี ฯพณฯ สังฆราช เปโตร คาเร็ตโต ประมุขมิสซัง ได้ดำเนินการก่อตั้งโรงเรียนดาวรุ่งวิทยา เพื่ออบรมสั่งสอนให้ความรู้และการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนลูกหลานของจังหวัดภูเก็ตและเขตใกล้เคียง เป็นสถาบันการศึกษาคาทอลิกแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต ทุกคนในสถาบันนี้ได้ทำหน้าที่ของตนด้วยความเชื่อมั่นและความรักในพันธกิจสำคัญในการอบรมเยาวชนให้มีความรู้ ควบคู่กับคุณธรรม ก่อเกิดเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน ที่เป็นแนวทางในการจัดการศึกษา ตามแบบการจัดการศึกษาคาทอลิกอย่างเป็นรูปธรรม และจากความเป็นมาในเบื้องต้น จึงประมวลเอกลักษณ์ของโรงเรียนดาวรุ่งวิทยา ได้ดังนี้

          1. โรงเรียนดาวรุ่งวิทยา เป็นโรงเรียนคาทอลิกในสังกัด คณะรอยแผลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ยึดมั่นในการดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระเยซูเจ้า

          2. ยึดหลักตามแนววิถีชีวิตของนักบุญกัสปาร์ แบร์โทนี่ ได้แก่

               2.1 การสร้างบรรยากาศการจัดการศึกษาแบบคาทอลิก ตามจิตตารมณ์นักบัญกัสปาร์ แบร์โทนี่ และคุณค่าพระวรสาร

               2.2 ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือย ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

               2.3 มีความรัก ความเมตตา อ่อนน้อม ถ่อมตน เป็นผู้รับใช้ที่ดีตามแบบอย่างพระเยซูเจ้า

               2.4 การเป็นผู้นำและเป็นนักปกครองที่ดี ด้วยความซื่อสัตย์ มีคุณธรม จริยธรรม

          3. จัดกระบวนการเรียนการสอน โดยมีการสอดแทรกคุณค่าพระวรสาร

          4. ปลูกฝังมารยาทที่ดีงาม ตามวัฒนธรรมและขนบรธรมเนียมประเพณี อันเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม

          5. อยู่ร่วมกับสังคมและชุมชนอย่างเป็นมิตร และได้รับการยอมรับจากบุคคลภายนอก

          จากปณิธานและอุดมการณ์ที่แน่วแน่ในการดำเนินชีวิตของนักบุญกัสปาร์ แบร์โทนี่ และนักบุญในคณะรอยแผลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเยซูคริสตเจ้า โรงเรียนดาวรุ่งวิทยาจึงได้กำหนดเป็นลักษณะสำหรับนักเรียนหรืออัตลักษณ์ที่ต้องการให้นักเรียนเป็น หลังจากได้ผ่านการถ่ายทอดและผ่านกระบวนการเรียนรู้จากโรงเรียน ได้แก่ “รัก เมตตา ซื่อตรง รับใช้ พอเพียง” ดังนั้นเพื่อให้เกิดคุณลักษณะดังกล่าว “พวกเราทุกคน” ซึ่งหมายถึง ผู้บริหาร ครู นักเรียน ได้ร่วมกันแสวงหาโดยให้ความเคารพในตัวตนของแต่ละคน เคารพความคิดเห็นของทุกคน นำมาแบ่งปันเรียนรู้แก่กันและกัน บนพื้นฐานของความแตกต่างทางภูมิหลังและประวัติศาสตร์ในกรอบของการศึกษาทางวิชาการ และตระหนักดีว่า ความรู้มิได้มาจากการเรียนรู้ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มาจากประสบการณ์ตรงด้วย ทางโรงเรียนจึงได้ร่วมกันวางแผนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิเช่น “ดาวรุ่งปันรัก” เพื่อให้นักเรียนรู้และปฏิบัติ เพื่อก่อให้เกิดเป็นอัตลักษณ์ของนักเรียน นอกจากนี้นักเรียนได้เรียนรู้จากบุคคลภายนอก องค์กร และจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ก่อเกิดเป็นองค์ความรู้ที่หลากหลาย และนำองค์ความรู้ที่ได้เผยแพร่ให้ภายนอกได้รู้ อีกทั้งมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แก่กันและกัน มีทั้งการให้และการรับด้วยท่าทีแห่งความเคารพและจากข้อมูลประสบการณ์ที่หลากหลายที่ผ่านการแสวงหา โรงเรียนได้วิเคราะห์ วางแผนในการพัฒนานักเรียน และบุคลากร โดย มีแผนปฏิบัติการแผนงาน โครงการ กิจกรรม และการกำกับติดตามประเมินผลอย่างชัดเจน และต่อเนื่อง ทำให้เกิดเป็นรูปแบบการศึกษาที่ไม่มีวันสิ้นสุด และเมื่อทำซ้ำ ๆ พบว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในที่ตัวนักเรียน นั่นหมายความว่าตัวนักเรียนมีคุณลักษณะที่คาดหวังคือ รัก เมตตา ซื่อตรง รับใช้ พอเพียง หรือเกิดเป็น อัตลักษณ์ของนักเรียนดาวรุ่งวิทยานั่นเอง และจากอัตลักษณ์ที่ก่อเกิดนี้นักเรียนจะเป็นบุคคลที่เป็นคนดีเพื่อพร้อมด้วยความดีงาม มีความความสามารถและเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นบุคคลที่บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม มีกิริยามารยาทสมศักดิ์ศรีของการเป็นนักเรียนโรงเรียนดาวรุ่งวิทยา โดยมีคุณลักษณะในความเป็นผู้นำ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ด้วยความซื่อสัตย์และยุติธรรม มีวินัยและรับผิดชอบ ยึดมั่นและศรัทธาในหลักธรรมทางศาสนา ด้วยความรัก รู้จักให้อภัย ให้เกียรติและเคารพผู้อื่น มีความกตัญญูกตเวที มีจิตอาสา ช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่โรงเรียนกำหนดให้เกิดขึ้นกับนักเรียนทุกคนอย่างยั่งยืน

อัตลักษณ์ของโรงเรียน

          อัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนดาวรุ่งวิทยาตามคุณค่าพระวรสาร (Gosple Value)

“รัก เมตตา ซื่อสัตย์ รับใช้ พอเพียง”

          จากอุดมการณ์ที่แน่วแน่ของผู้ก่อตั้งโรงเรียน ที่พัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ยั่งยืน ก่อเกิดเป็น อัตลักษณ์ของนักเรียนดาวรุ่งวิทยาที่โดดเด่น โดยโรงเรียนดาวรุ่งวิทยามีเป้าหมายที่จะให้นักเรียนและบุคลากรมีลักษณะ ดังนี้

          1. ความรัก (love) พระเยซูสอนให้มีความรักแท้ ความรักที่สูงส่งกว่าความรักใคร่ ความรักไม่เห็นแก่ตัว ไม่หวังสิ่งตอบแทน ความรักที่มอบแก่ทุกคน ความรักที่เอาชนะอารมณ์ความรู้สึกของตน จนกระทั่งสามารถรักแม้แต่คนที่เป็นอริกับเรา (มธ 5:43-45) หลักปฏิบัติพื้นฐานของการแสดงความรักคือ “ปฏิบัติต่อผู้อื่นดังที่เราอยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา” (มธ 22:39) หลักปฏิบัติขั้นสูงของการแสดงความรักคือ “รักกันและกันเหมือนที่พระเจ้าทรงรักเรา” (ยน 15:12) ความรักเป็นคุณค่าที่สำคัญที่สุด เป็นจุดมุ่งหมายของคุณค่าพระวรสารอื่นๆ ทั้งหมด

          2. เมตตา (compassion) พระเยซูเจริญชีวิตที่เป็นแบบอย่างของความเมตตา พระองค์เมตตาต่อทุกคน คนเจ็บป่วย (มธ 20:34) คนตกทุกข์ได้ยาก (ลก 7:13) และคนด้อยโอกาส (มธ 9:36) พระองค์ร่วมทุกข์กับคนที่มีความทุกข์ เข้าถึงความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น (ยน .๑๑:๓๓) พระองค์สอนเราให้รู้จักพระเจ้าผู้เป็นพระบิดาผู้เมตตา (ลก 15:20) และสอนให้เราเป็นผู้เมตตาเหมือนพระบิดาทรงเป็น ผู้เมตตา (ลก 6:36) พระองค์เล่านิทานเปรียบเทียบที่น่าฟังเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจเมตตา (ลก 10:33)

          3. ความซื่อสัตย์ (honesty) พระเยซูคาดหวังให้เราเป็น “มนุษย์ใหม่” (ยน 1:13) มนุษย์ที่ซื่อตรง (มธ 5:37) ชอบธรรม (ยน 1:47) ประพฤติชอบในสายพระเนตรของพระเจ้า (ลก 16:15) ดำรงตนอยู่ในศีลธรรม ไม่หน้าซื่อใจคด (มธ 23:13-15) ไม่คดโกงหรือเบียดเบียนผู้อื่น (มธ 15:8; 23:13-15) ผู้ซื่อตรงต้องเริ่มจากการซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย (ลก 16:30) ผู้ซื่อตรงจะเกิดผลมากมาย (ลก 8:15)

          4. การรับใช้ (service) พระเยซูเสด็จมาในโลกเพื่อมารับใช้ มิใช่มาเพื่อได้รับการรับใช้ พระองค์สอนสานุศิษย์ว่าพระองค์ผู้เป็นพระเจ้ายังรับใช้พวกเขา (ยน 13:14) ดังนั้นพวกเขาต้องรับใช้ผู้อื่นเช่นเดียวกัน ผู้ใหญ่กว่าจะต้องรับใช้ผู้น้อยกว่า (ลก 22:26)

          5. ความเรียบง่าย / ความพอเพียง (simplicity/sufficiency) พระเยซูเจริญชีวิตที่เรียบง่าย คลุกคลีกับประชาชนคนสามัญ ทุกคนเข้าหาพระองค์ได้แม้แต่เด็กๆ (ลก 18:16) พระองค์สอนเรามิให้กังวลใจในเครื่องแต่งกาย ในอาหารการกิน เพราะพระเจ้าดูแลชีวิตของเราทุกคน (ลก 12:24-27) (มธ 6:32) สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง และนกในอากาศยังมีรัง แต่พระองค์ไม่มีที่ที่จะวางศีรษะ (มธ 8:20)